การประกันชีวิตต้องหยุดชะงักลงเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ บริษัทประกันชีวิตต่างชาติได้พากันปิดกิจการและขนทรัพย์สินกลับสู่ภูมิลำเนาเดิม ยังความเสียหายให้แก่ ผู้เอาประกันในเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้คนไทยและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของไทยในสมัยนั้น จึงได้รวมตัวกันก่อตั้งบริษัทประกันชีวิตของไทยขึ้น เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ภายใต้ชื่อ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด นับเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย ที่มุ่งสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับครอบครัวคนไทย โดยมี คณะกรรมการดังนี้ ๑. พระยาชัยสุรินทร์ (ตาล บุนนาค) ๒. นายบุญล้อม พึ่งสุนทร ๓. นายปพาฬ บุญ-หลง ๔. นายหลุย พนมยงค์ ๕. นายวิจิตร์ ลุลิตานนท์ ๖. นายโล่เต็กชวน บูลสุข ๗. นายตันจินเก่ง ๘. นายเชวง เคียงศิริ ๙. นายตันเกียกปุ้น หลังจากนั้นบริษัทฯ ได้รับหนังสืออนุญาตจากกระทรวงคลังให้ประกอบธุรกิจประกันภัย เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ แล้วก็ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดแรกเพื่อดำเนินธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เริ่มดำเนินกิจการประกันชีวิตครั้งแรกด้วยทุนจดทะเบียน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และมีสำนักงานแห่งแรกตั้งอยู่ เลขที่ ๒๕ - ๒๗ ถนนเยาวราช กรุงเทพฯ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้ย้าย สำนักงานมาอยู่ ณ เลขที่ ๖๒๔ ตึก สหธนาคาร และในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้ย้ายสำนักงานมาอยู่ ณ อาคาร ๘ ถนนราชดำเนิน พร้อมกับได้ดำเนินกิจการเรื่อยมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ อันมีนายวานิช ไชยวรรณ เป็นผู้นำเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างและระบบบริหารงานครั้งใหญ่ โดยมีนายอนิวรรตน์ กฤตยากีรณ เป็นกำลังสำคัญในการวางรากฐานการดำเนินงานที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้ ปรับปรุงโครงสร้างระบบงาน ตลอดจนวางแผนพัฒนาจนไทยประกันชีวิตสมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยประกันชีวิตได้สั่งสมประสบการณ์และความชำนาญในการดำเนินธุรกิจ ทั้งยังได้รับความเชื่อมั่นศรัทธาจากมหาชนเพิ่มขึ้นตามลำดับ เป็นผลให้ไทยประกันชีวิตก้าวขึ้นสู่บริษัทประกันชีวิตชั้นแนวหน้าของคนไทยปัจจุบัน